ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย ได้เผยแพร่ แถลงการณ์ เรื่อง "โครงการอุทยานราชภักดิ์" โดยมีเนื้อหาดังนี้
แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย
เรื่อง โครงการอุทยานราชภักดิ์
ตามที่ได้มีการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ภายในพื้นที่ของกองทัพบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหาบูรพกษัตริย์ไทยในอดีตที่ทรงสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ และได้พระราชทานนามว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งมีความหมายว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
อุทยานราชภักดิ์เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ ในการดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จ ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เกิดมีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหลายขั้นตอนของการดำเนินโครงการ
การเกิดการทุจริตในครั้งนี้นอกจากจะกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ยังกระทบความเชื่อมั่นในนโยบายปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอีกด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับท่าทีของกองทัพบกตามคำแถลงของโฆษกกองทัพบกที่แจ้งว่า กองทัพได้มีการสั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวโดยกำหนดระยะเวลา 7 วัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดของโครงการ เพราะเงินงบประมาณที่ใช้ มาจากภาษีอากรและจากการบริจาคของประชาชนชาวไทย พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียนเสนอข้อคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้
1. รัฐบาลจะต้องแถลงรายละเอียดของโครงการตั้งแต่ต้น ผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนของโครงการ ลำดับขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด งบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งหมด ทั้งในส่วนที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินบริจาค
2. เนื่องจากผู้รับผิดชอบในโครงการดังกล่าว ได้แถลงต่อสื่อมวลชนยอมรับว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ แต่อ้างว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปบริจาคแล้ว จึงมีความชัดเจนว่าได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว
3. เนื่องจากได้ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า มีข้าราชการและเอกชนเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว และรัฐบาลได้ประกาศนโยบายสำคัญ 2 ด้าน คือ ปกป้องสถาบัน และปราบปรามการทุจริต รัฐบาลจึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบและผู้กระทำผิดโดยเร่งด่วน นอกจากนั้นหากเป็นการกระทำของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดย มิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง หรือผู้อื่น หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149 การนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปบริจาคเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รัฐบาลจึงต้องดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยทันทีต่อไป
4. การกระทำความผิดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบกและเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และขณะนี้ยังดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติอีกด้วย จึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาในลำดับชั้นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องแสดงความชัดเจนและแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า คณะบุคคลดังกล่าวทั้งหมดจะมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
อนึ่ง นอกเหนือจากกรณีที่กล่าวมาตามข้อ 1 – 4 แล้ว ปรากฏว่ามีผู้ที่เป็นข้าราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง สามารถเดินทางหลบออกนอกประเทศ ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อระแวงสงสัยต่างๆ ต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จึงชอบที่รัฐบาลในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยตรง ควรเร่งแถลงรายละเอียดและมาตรการการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสาธารณะ โดยเร่งด่วน
พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใสและประกาศให้สาธารณะได้ทราบโดยด่วน
พรรคเพื่อไทย
13 พฤศจิกายน 2558
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น