นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ การที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าปกป้องตัวเอง และรุกกลับทางการเมือง ว่า การส่งจดหมายเปิดผนึก ถือเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการต่อสู้คดี เพราะเห็นว่าการออกคำสั่งที่ 39/2558 เรื่อง การคุ้มครองการบริหารการจัดการข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐ และการดำเนินการต่อผู้รับผิดเป็นการดำเนินการเพื่อยกเว้นความผิดหรือนิรโทษกรรมล่วงหน้า ให้กับเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง เงื่อนไขในการออกคำสั่ง ยังไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เพราะตามกระบวนการยุติธรรม ควรเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงต่อสู้ จนกว่าจะพิสูจน์ว่าผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้
พร้อมกับกล่าวด้วยว่า การแสดงความเห็นของ นายอภิสิทธิ์ ควรระมัดระวังให้มาก เพราะอาจกระทบต่อคดีได้
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ มีพรรคการเมืองไม่เสนอชื่อหัวหน้าพรรคตัวเองที่ได้คะแนนสูงสุดเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า อยากให้นายนิพิฏฐ์ ระมัดระวังคำพูด การใช้วาจาเสียดสีผู้อื่น โดยเฉพาะการวิจารณ์อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นสุภาพสตรีต้องระมัดระวัง ความจริงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 เหมือนกับที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผลการเลือกตั้ง นางสาว ยิ่งลักษณ์ นำพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย นายนิพิฏฐ์ ควรเอาเวลาไปคิดนโยบายมาเสนอต่อประชาชนจะสร้างสรรค์กว่า
ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ ยังแนะนำให้ นายนิพิฏฐ์ ระมัดระวังในการแสดงความเห็นที่กระทบกับคนอื่น ด้วยการต้องแยกแยะให้ได้ใครมิตร ใครศัตรูเพราะผู้มีอำนาจปัจจุบันด่านักการเมืองทุกวัน แต่ นายนิพิฏฐ์ นิ่งเฉย มาหาเศษหาเลยกับภาคการเมืองด้วยกัน และหากจะวิจารณ์เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญก็มุ่งเป้าไปที่เนื้อหาให้ชัด อย่าระรานคนอื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น