วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562

"วัฒนรักษ์" เร่งรัฐ แบนสารเคมีเกษตร

“ผู้กองมาร์ค” จัดหนัก เร่งนายกฯออกพรก. พร้อม ติง รัฐฯ เหตุใดจึงยกเลิกสารพิษ 3 ชนิดได้ยากเย็น


ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช เลขานุการกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า  จากการที่ทางรัฐบาลต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต แต่ยังไม่สัมฤทธิ์ผล ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าทำไมการยกเลิกสารเคมีพิษเหล่านี้จึงยากเย็นได้ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง จนถึงขนาดมีข่าวว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายอาจมีมติโหวตสวนทางกับ มติคณะทำงานตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้ รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ไปศึกษาแล้วนั้น  ประกอบกับทั้งๆ ที่มีผลงานศึกษา วิจัย ทั้งในและต่างประเทศมากมายที่สามารถยืนยันว่าสารเคมีพิษทั้ง 3 ชนิด มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก ขนาด พล.อ.วิทวัส รชตะนันทร์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังกล่าวว่า ถ้ายังไม่ยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดนี้ ก็ถือว่าไม่มีเหตุอื่นอันสมควร เพราะปกติข้าราชการนั้นสมควรทำงานตามสายระบบบังคับบัญชา ดังนั้นจึงเข้าข่ายหัวหน้าหน่วยราชการไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ตามกฎหมาย โดยให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการพิจารณาชี้มูลความผิดหรือถ้าหากบุคคลใดเข้าข่ายผิดอาญาก็ให้ส่งศาลยุติธรรมเพื่อพิจารณา   

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ฯ กล่าวอีกว่า การที่มีผู้คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด และได้ไปยื่นเรื่องให้ศาลปกคลองวินิจฉัยมติของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นประธานฯ ตนเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เพราะมีผลกระทบต่อเกษตรกรไทยที่ต้องลำบากต่อสู้กับสารพิษเหล่านี้มา กว่า 30 ปี  และกระทบต่อผู้บริโภคคนไทยทุกคนเพราะการที่เราจะทานผัก ผลไม้ และสัตว์น้ำ แต่ก็ยังต้องคอยเป็นกังวลว่าจะมีสารพิษเหล่านี้ปนเปื้อนหรือตกค้างหรือไม่ ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจากโรคเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นทุกปี จึงถือเป็นภาระทั้งภาคประชาชนและภาครัฐอีกด้วย ตนจึงเสนอแนะให้นายกรัฐตรีเร่งออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งในรายงานของกมธ. ได้มีข้อเสนอแนะให้กับทางรัฐบาลจัดกองทุนเปลี่ยนผ่าน เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์โดยใช้วิธีการไถกลบเพื่อปรับปรุงดินและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่ต้องมีเพิ่มสำหรับเกษตรที่ผ่านการฝึกอบรมการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษ  ซึ่งทาง กมธ. ไม่อยากเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกรไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น