วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

“เรืองไกร” ร้องสอบ "ประยุทธ์" ขัดรัฐธรรมนูญ-ผิดจริยธรรม

“เรืองไกร” ชี้ พฤติการณ์ “ประยุทธ์” ส่อ ทุจริตเชิงนโยบาย เตรียมยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ



นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือทางถึงประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันนี้ (วันที่ 27 เมษายน 2563) เพื่อขอให้ไต่สวนโดยด่วน และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนก คดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อพิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ นายกรัฐมนตรีมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อ่านาจขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายหรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ จากกรณีทําจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีประมาณ 20 ราย

นายเรืองไกร กล่าวว่า “ในหนังสือของดนความยาวเกือบ 6 หน้ากระดาษ ได้อ้างถึงคํา แถลงออกรายการวิทยุโทรทัศน์และเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกลงวันที่ 20 เมษายน 2563 ขอให้มหาเศรษฐีให้ความร่วมมือระดับ ชาติช่วยเหลือรัฐบาลต่อสู่โรคระบาดโควิด-19 รวมทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อ ต่าง ๆ จากการตรวจอย่างถี่ถ้วน รอบด้านทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ค่า พิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จริยธรรมของผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมืองพบว่าเข้าข่ายกระทําความผิดและสมควรได้รับโทษเหมือนกับนักการเมืองในอดีตที่เคยโดน มาแล้ว”

“ในหนังสือค่าร้องถึงประธาน ป.ป.ช. ระบุว่า จดหมายเปิดผนึกลงนาม ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่มีเลขที่หนังสือ สถานที่ออกหนังสือ กลุ่มมหาเศรษฐีที่ได้รับจดหมาย ดังกล่าว บางรายก็ได้ตอบสนองต่อค่าขอในจดหมายแล้ว จึงถือได้ว่าการกระทําอาจเข้าข่ายความผิดที่สําเร็จแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯย่อมต้องทราบข้อเท็จจริงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งใน ฐานะผู้ตรา พ.ร.ก.รวม 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งก็อาจจะนําไปใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ บริษัทของกลุ่มคนดังกล่าวซึ่งสื่อมวลชนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวในตอนท้ายว่า “พฤติการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ขอความร่วมมือ ขอความสนับสนุนช่วยเหลือจากมหาเศรษฐี เข้าข่ายเป็นการกระทําผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่? เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ต้องดําเนินการตามหน้าที่ด้วย การไต่สวนโดยเร็วแล้วส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ หากดําเนินการล่าช้าในลักษณะประวิงเวลาหรือหาเหตุมากล่าวอ้างวินิจฉัยเพื่อตัดตอนคดีไม่ให้ไปถึงศาลยุติธรรม ป.ป.ช.อาจถูกดําเนินการ ตาม รธน.มาตรา 236 ได้”

“ฝากไปถึงรัฐมนตรีในรัฐบาล ถ้าออกมารับประกันว่าการออกจดหมายเปิดผนึกของ นายกฯที่มีไปถึงมหาเศรษฐีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ระวังจะเดือดร้อนไปด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และร้ายแรงมาก ควรปล่อยให้นายกฯแก้ปัญหาไปเอง” นายเรืองไกรกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น