วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

"จาตุรนต์" อัดรัฐแถลงแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง โพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้


โควิด19 สร้างความเสียหายต่อมนุษยชาติในหลายด้านหลายมิติ การวัดความสำเร็จล้มเหลวของการรับมือกับโรคนี้จึงต้องดูในหลายมิติเช่นกัน ไม่ใช่นับจำนวนผู้ติดเชื้อเท่านั้น แต่ต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับประชาชนทั้งหลาย

เวลาที่องค์กรระหว่างประเทศหรือประเทศต่างๆพูดถึงสถานการณ์โควิด19 นอกจากการพูดถึงจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และปัญหาในการรับมือกับการแพร่ระบาดระบาดแล้ว เขาจะพูดถึงสำคัญอื่นๆควบคู่กันไปด้วย เช่นสภาพเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาคนว่างงาน คนอดอยาก ผลกระทบต่อการศึกษา เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยเรา การให้ศูนย์โควิด19 เน้นเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยแยกจากงานด้านอื่นๆเช่นแรงงาน เศรษฐกิจ การศึกษา ทำให้ขาดการบูรณาการ ศูนย์โควิด19 มีแนวโน้มมองไม่เห็นปัญหาของประชาชนในด้านอื่นๆเท่าที่ควร

ในการแถลงข่าวของศูนย์โควิดแต่ละวัน เราจะไม่ได้ยินว่าต่อไปการศึกษาของเด็กเยาวชนจะเป็นอย่างไร ขณะนี้เกิดอะไรกับเด็กเล็กเมื่อศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศปิดหมด คนตกงาน 10 กว่าล้านคนอยู่กันอย่างไร แรงงานข้ามชาติกลับบ้านไปแล้วมากน้อยแค่ไหนและต่อไปจะกลับมาทำงานหรือไม่

แม้แต่เรื่องที่เป็นผลจากการใช้มาตรการรับมือกับโควิด19 โดยตรงเช่นการปิดกิจการต่างๆ ศูนย์โควิด19 ก็พูดถึงน้อยมาก หลังจากการสั่งปิดกิจการ มีคนสมัครขอรับการเยียวยาเข้า 28 ล้านคน เพิ่งได้รับอนุมัติไป 4 ล้านกว่าคน เท่านั้น แม้รัฐบาลจะเพิ่มยอดผู้ที่จะได้รับการเยียวยาเป็น 14 ล้านคน แต่การพิจารณาก็เป็นไปอย่างล่าช้า และคนอีก 14 ล้านที่เหลือจะได้รับการดูแลได้อย่างไรก็ยังไม่ทราบ คน 24 ล้านคนอยู่กันมาโดยไม่มีรายได้เป็นเดือนแล้ว

สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุด สำนักงานสภาพัฒน์ฯ ได้เสนอให้ นายกฯ รับทราบผลสำรวจปัญหาและความต้องการของภาคธุรกิจที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จากกลุ่มเป้าหมาย 8,929 คน จาก 77 จังหวัด ในระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 9-14 เม.ย.ที่ผ่านมาพบประชาชนส่วนใหญ่ 88% ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล นายจ้าง-อาชีพอิสระ-คนว่างเดือดร้อนหนักอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน

ที่ศูนย์โควิด19 แถลงแต่ละวันรวมทั้งที่นายกฯแถลงด้วยเป็นครั้งคราวจะไม่มีเรื่องเหล่านี้ ศูนย์โควิด19 เน้นให้ความสำคัญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นหลัก จนทำให้ผู้เกี่ยวข้องจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่าเป้าหมายในการแก้ปัญหาวิกฤตครั้งนี้อยู่ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียวจนไม่เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาในด้านอื่นๆซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก

ล่าสุดศูนย์โควิด19 บอกว่าถ้าคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้เป็นเลขตัวเดียวได้ 14 วัน อาจนำไปสู่การปลดล็อคทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง

การตั้งเงื่อนไขแบบนี้ไม่มีฐานทางวิชาการรองรับและไม่มีมิติเชื่อมโยงถึงปัญหาในมิติอื่นๆเลย

ขณะที่นายกฯก็ไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับการเปิดให้เศรษฐกิจเดินได้ บอกว่าจะเปิด แต่ไม่บอกว่าเมื่อไหร่ บอกให้ธุรกิจเตรียมตัว แต่ก็ไม่บอกว่าเตรียมอะไรยังไง ทั้งๆที่ผู้ที่ต้องเตรียมตัวมากว่าใครคือหน่วยงานต่างของรัฐซึ่งยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย นายกฯซึ่งควรจะมองปัญหาหลายมิติก็กำลังมองเห็นปัญหาเพียงมิติเดียว โดยไม่ได้ใช้ข้อมูลความรู้หรือการวิเคราะห์ที่เชื่อมโยงเรื่องต่างๆมาอธิบายปัญหาที่เป็นอยู่แต่อย่างใดเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น