วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

"สุรพงษ์" เผยรัฐถังแตก เสี่ยงประเทศล้มละลาย


นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า 3 ปี งบประมาณ รัฐบาล คสช. ก็จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลทุกปีและยังทำงบประมาณกลางปีเพิ่มเติมมาอีก 3 ปี ติดต่อกันเช่นกัน ซึ่งทำให้ขาดดุลเพิ่มขึ้นอีก จนเงินหมดกระเป๋า แถมยังเอาเงินในคลังที่เก็บสะสมกันไว้ออกมาใช้จ่ายอีก พูดง่ายๆว่ารายได้ไม่มี มีแต่รายจ่าย และรายจ่ายที่เกิดขึ้นก็จัดเป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ นี่ก็คืออาการที่เรียกได้ใช่ไหมว่า เริ่มจะถังแตก ถึงขั้นต้องทุบกระปุกออมสินเอาเงินออกมาใช้ ดังนั้นโครงการต่างๆที่รัฐบาลจะหยิบขึ้นมาทำก็น่าที่จะต้องศึกษากันดูใหม่ว่าจุดคุ้มทุนหรือจุดคืนทุนนั้นมันอยู่ตรงไหน มันเปลี่ยนไปจากเดิมไหม เพราะถ้าเราจำกันได้ในช่วงระหว่างปี 2525-2535 รัฐวิสาหกิจหรือภาครัฐ คิดจะทำธุรกิจอะไรก็มักจะขาดทุนแทบทั้งสิ้น แต่ต่อมาเริ่มมีการให้สัมปทานแก่ภาคเอกชน รัฐก็เริ่มมีผลกำไร มีรายได้ และเก็บภาษีได้มากขึ้น และต่อมาในหลายๆรัฐบาลก็ได้เริ่มมีการหาแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายประจำซึ่งนับวันก็ยิ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน สวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาล บำเหน็จบำนาญ ฯลฯ แต่วันนี้เรากลับเดินมาซ้ำรอยเดิมอีก และ สนช. ที่ควรจะทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ในรัฐสภา ที่ควรจะศึกษาหาข้อมูลเพื่อเสนอแนะหรือท้วงติง คัดค้านการทำงานของรัฐบาล คสช. ตลอดเวลาเกือบ 3 ปี ก็คาดว่าคงจะไม่ได้ทำหน้าที่เท่าที่ควร ที่จะกล้าเสนอแนะท้วงติงรัฐบาล คสช. เพราะ สนช. ทุกท่านก็อาจจะเกรงใจหัวหน้า คสช. เพราะท่านเป็นคนแต่งตั้งสนช. มากับมือและ สนช. ก็มาจากข้าราชการประจำผู้สูงวัยแทบทั้งนั้น ก็อยู่กันมาด้วยความเกรงอกเกรงใจ มันก็เลยต้องยอมปล่อยเลยตามเลยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และหัวหน้า คสช. จะมาโกรธและโยนความรับผิดชอบไปที่กระทรวงการคลังที่ไม่ศึกษาดูเงินในกระเป๋าหรือวิเคราะห์ความคุ้มทุนของแต่ละโครงการและผลตอบแทนของโครงการเหล่านั้น และรัฐบาล คสช. ยังคิดที่จะจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์อีกมากมายมาใช้ในกองทัพ จึงใคร่ขอถามว่าท่านหัวหน้า คสช. ท่านมองไม่เห็นหรือ ซึ่งท่านก็ต้องเข้าใจว่าถ้าตัวท่านยังมองไม่ออกด้วยตัวท่านเองและนั่งทำหน้าที่เป็นเฒ่าแก่สั่งจ่ายและใช้เงินเป็นอยู่อย่างเดียว ก็คงจะมีแต่เจ๊งหรือขาดทุนลูกเดียวก็เท่านั้นเอง นี่ถ้าจะให้ดีต้องหาคนมีความรู้ขึ้นมาทำหน้าที่โดยเร็วหรือไม่ก็ต้องรีบปรับ ครม. ชุดใหม่อีกรอบได้แล้ว ก่อนที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สภาวะล้มละลาย หรือหนี้สินล้นพ้นตัว มันก็จะยิ่งซ้ำเติมสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน นักธุรกิจ พ่อค้าและนักลงทุน หนักลงไปอีก จึงขอฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ ได้คิดเป็นการบ้านโดยด่วน และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใจเย็นๆ ใช้ความอดทนอดกลั้น เพราะการเป็นผู้นำนั้นทำดีมักจะไม่ค่อยได้ดี และก็อยากให้ ท่านบริหารประเทศอยู่ไปนานๆ ให้มันเห็นดำเห็นแดงกันไปเลย ท่านก็เป็นคนดีที่เกิดมาเพื่อแก้ไขและขอให้ท่านได้โปรดเข้าใจด้วยว่าปัญหาของประเทศในขณะนี้ก็คือรัฐบาล คสช.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น