วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

"ชวลิต" แนะ "สมคิด" หยุดทุบกระปุกงบฯอุดหนุนท้องถิ่น


นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ มีนโยบายจะนำเงินสะสมของท้องถิ่นซึ่งมีอยู่ประมาณเกือบ 200,000 ล้านบาท ให้ท้องถิ่นไปจัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาอาชีพในชุมชน นั้น ว่า “ตนเห็นด้วยกับการส่งเสริมท้องถิ่นให้เข้มแข็ง แต่ควรส่งเสริมด้วยการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง คือ กระจายทั้งงบประมาณและภารกิจตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. พ.ศ.2542 แต่การใช้เงินสะสมเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวของนายสมคิด ขัดทั้งระเบียบ มท. และกฎหมาย ดังนี้
       
1. ระเบียบ มท. ว่าด้วยการใช้จ่ายเงินสะสมท้องถิ่น ได้กำหนดหลักเกณฑ์การใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จำเป็น เร่งด่วนในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น การบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งยังต้องสำรองไว้ใช้จ่ายเป็นค่าเบี้ยยังชีพคนชรา และคนพิการ เป็นต้น ดังนั้น การที่จะขอมติ ครม. เพื่อขอแก้ไขระเบียบ มท. เพื่อเอื้อต่อการใช้เงินดังกล่าว เท่ากับทำลายหลักการเดิมที่ มท. ได้กำหนดไว้แล้วอย่างรอบคอบ เคร่งครัด เพื่อรักษาเงินสะสมไว้ใช้เมื่อมีเหตุจำเป็น เงินสะสมท้องถิ่นเกือบ 200,000 ล้านบาท ไม่ใช่เพิ่งมาสะสมในห้วงเวลา 3 ปีของการรัฐประหาร แต่ได้สะสมมาตั้งแต่ท้องถิ่นนั้นๆเริ่มจัดตั้ง หากหมดลงหรือร่อยหรอในยุคนี้สมัยนี้ และเกิดเหตุสาธารณภัยที่ไม่คาดฝันในท้องถิ่น แต่ไม่มีเงินบรรเทาหรือเยียวยาในเบื้องต้น ถามว่า นายสมคิดจะรับผิดชอบอย่างไร?
       
2. หากรัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่น สามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีอุดหนุนให้แก่ท้องถิ่นในสัดส่วนที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. พ.ศ.2542 รัฐบาลนี้โฆษณามาตลอดว่าจะปฏิรูปท้องถิ่น ทั้งมีข่าวมาเป็นระยะๆ ว่าจะปฏิรูปโครงสร้างท้องถิ่น ตรวจสอบการทุจริตจริงจัง ถึงขนาดใช้คำสั่งมาตรา 44 พักงานผู้บริหารท้องถิ่นจำนวนมาก แต่สุดท้าย โครงสร้างก็ไม่ได้ปรับ ภารกิจก็ยังหวงไว้ที่ส่วนกลาง ไม่กระจายอำนาจอย่างแท้จริง การตรวจสอบการทุจริตก็ไม่บรรลุผล ไม่จริงจัง พักงานไว้เพื่อขู่ แล้วก็ดึงมาเป็นพวก มีข่าวว่าจะปล่อยผี เร็วๆนี้ เพื่อมาเลือกตั้งท้องถิ่นบ้าง เลือกตั้งระดับชาติบ้าง ตนรู้สึกเสียดายเวลา 3 ปีเศษที่ผ่านไปจริงๆ
         
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า “งบประมาณในการอุดหนุนท้องถิ่น นอกจากไม่ได้พยายามอุดหนุนตามสัดส่วนของกฎหมายแล้ว ยังจะไปทุบกระปุกล้วงเอาเงินสะสมท้องถิ่นมาใช้ตามนโยบายที่ขาดการตรวจสอบ ประการสำคัญสังคมเริ่มสงสัยว่าเพื่อปูพื้นฐานทางการเมืองหรือไม่? เพราะความล้มเหลวในการปฏิรูป และการตรวจสอบการทุจริตไม่จริงจังเป็นเครื่องพิสูจน์ จึงขอให้สังคมร่วมกันคัดค้านการขอใช้เงินสะสมท้องถิ่น ซึ่งมีข่าวว่าจะนำเรื่องเข้า ครม.สัญจร ในสัปดาห์หน้า โดยควรรักษาเงินสะสมท้องถิ่นไว้ใช้เมื่อมีเหตุจำเป็น เร่งด่วน ส่วนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาอาชีพในชุมชน ควรกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ทั้งงบประมาณและภารกิจ หากยังหวงอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ก็ยากที่จะพัฒนาให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น