วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

“ตรีชฎา” ซัด “ประยุทธ์” ไม่ยอมลาออก เพราะต้องการอยู่บนซากปรักหักพังของประเทศ

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดในที่ประชุมสภาในการประชุมวิสามัญ ว่า ไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง บางครั้งคนกล่าวหาก็พูดด้วยอารมณ์ของพวกท่านไปบ้าง ก็มาไล่ทุกวันก็ให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง จะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา จะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยการลาออกยามที่บ้านเมืองมีปัญหา จะยังแก้ปัญหาต่างๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไขอยู่ นั้น


แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า  พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนทำเหมือนจะรู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเองจริงๆ ไม่เคยตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนว่าเขามีความเดือดร้อนอย่างไร ไม่เคยรู้สึกไม่เคยสนใจ  และมาวันนี้พล.อ.ประยุทธ์มาเที่ยวร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ทั้งๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยมองเห็นความเสียหายในสิ่งที่ตนเองกระทำต่อชาติบ้านเมืองและประชาชน สาเหตุที่ลูกหลานเยาวชนเขามาไล่พล.อ.ประยุทธ์ให้ออกไปจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเขาได้ไตร่ตรองจากผลงานของพล.อ.ประยุทธ์ 6 ปีกว่าที่เข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศโดยอ้างบุญคุณว่าประเทศมีปัญหาความขัดแย้งพล.อ.ประยุทธ์มาหยุดปัญหา แล้วไหนล่ะคือการหยุดปัญหา อ้างว่ามาเพื่อให้ประเทศสงบ ซึ่งก็สงบจริง สงบนิ่งทุกอย่างโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ จะรวยกันก็เฉพาะคนที่ใกล้ตัวพล.อ.ประยุทธ์  เพราะหลังจากพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีแจงบัญชีทรัพย์สินกันมาก็เห็นรวยกันกระจายทุกคน 


พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารเลย  นอกจากการแนะเกษตรกรให้ไปขายยางที่ดาวอังคารแล้ว  เมื่อราคาข้าวตกก็แนะให้หันมาปลูกหมามุ่ย ไม่นานชาวบ้านร้องทุกข์ ปลูกได้ผลผลิตแล้วแต่ขายไม่ได้ไม่มีตลาดรองรับ ช่วงน้ำท่วมก็แนะให้ไปหาอาชีพเสริมแนะให้ทำอาชีพประมงเลี้ยงปลา  น้ำประปาเค็มก็แนะนำให้เอาไปต้ม แค่ยกตัวอย่างเท่านี้ยังนึกไม่ออกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อย่างไร 


นางสาวตรีชฎา ยังกล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าตนเองจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา จะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยการลาออกยามที่บ้านเมืองมีปัญหา  พล.อ.ประยุทธ์พูดแบบนี้เหมือนตนเองเป็นพระเอกการ์ตูนเล่มละบาท  นี่พล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้จริงๆ หรือว่าที่ประเทศมีปัญหาวันนี้เพราะตัวเองเข้ามาผิดทาง ทั่วโลกเขาไม่ยอมรับแล้วยังจะสืบทอดอำนาจต่อ ตอนพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มา สมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ ราคายางแผ่นดิบ ต่ำสุดอยู่ที่ 87.88 บาท สูงสุดอยู่ที่ 172.62 บาท เฉลี่ยที่ 129.36 บาท พอยุคพล.อ.ประยุทธ์ ราคายางแผ่นดิบ ต่ำสุดอยู่ที่ 36.80 บาท สูงสุดอยู่ที่ 55.30 บาท เฉลี่ยที่ 45.88 บาท ต่ำถึงขั้นคนต้องแต่งเพลงยาง 3 โลร้อยให้   รวมถึงสิ่งที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ เคยออกมาเตือนว่า ธนาคารโลกได้ออกเตือนว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบมากที่สุดในเอเชียตะวันออก โดยจะติดลบที่ -8.3% และอาจจะลบหนักไปถึง -10.4% และอาจจะต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะฟื้นมาที่เดิม   ถ้าบริหารเป็นประเทศไทยคงไม่ตกเป็นประเทศที่ครองบ๊วยทางเศรษฐกิจแบบนี้  พอเศรษฐกิจแย่ ท่านจะอ้างว่าเป็นแบบนี้ทั้งโลก แต่เวียตนาม จีดีพีโตขึ้น +2.8%  ผู้ประกอบการเลยย้ายฐานจากไทยไปที่เวียตนาม ขนาดที่ อินเดีย ศรีลังกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการระบาดจากโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงที่สุด จีดีพียังลดลงเพียง -4%  แต่ไทยกลับติดลบรั้งท้าย ทั้งที่ไทยเป็นประเทศที่จัดการโควิด-19 ได้ดีที่สุด เป็นอันดับ 4 ของโลกในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา 75 ประเทศ  " การที่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่เขาออกมาไล่ให้ท่านออกจากตำแหน่ง ก็ไม่ต้องสงสัยหรือถามใครว่า ผมทำอะไรผิด  คำตอบคือ ตั้งแต่ท่านเข้ามาชีวิตของพวกเขาคุณภาพชีวิตต่ำลง เพราะพ่อแม่เขามีรายได้ลดลง พ่อแม่บางคนตกงานไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน บางคนต้องเปลี่ยนอาชีพมาเป็นขายบ้านขายรถขายมอเตอร์ไซค์ ขายจนในบ้านไม่มีอะไรให้ขาย  ถึงขั้นจำนำครก จำนำสาก  เครื่องมือเกษตรยังจำนำ  ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์และคนรอบข้างรวยขึ้น    การที่ท่านไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์คือผู้ที่ยืนท่ามกลางซากปรักหักพังของประเทศ ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำ  นั่นยิ่งหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์จะปล่อยให้ทุกอย่างพังไปพร้อมตนเอง ไม่สนใจต่อความเดือดร้อนของใครทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ตนเองคือต้นตอของปัญหาทั้งหมด มันจะเป็นตราบาปที่สร้างไว้ให้ลูกหลาน ถึงเวลาพญามัจจุราชอาจช่วยไม่ทัน”  นางสาวตรีชฎา กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น