นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาล จัดให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่รัฐบาลจะได้รับฟังเสียงสะท้อน ของประชาชนผ่านผู้แทนราษฎร ที่รับข้อเสนอจากนิสิตนักศึกษาประชาชน และผู้แทนราษฎรจะได้บอกกล่าวไปยังรัฐบาล หากรัฐบาลรับฟังเพื่อนำไปแก้ปัญหา หรือวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการดี เพราะจะสามารถแก้ปัญหาได้
ในทางกลับกัน หากเป็นการเปิดเพื่อลดกระแสความไม่พอใจของพี่น้องประชาชน หรือเปิดเพื่อให้กลุ่มเยาวชน เห็นว่ารัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง แต่ไม่สนใจจะนำสิ่งที่ได้รับรู้รับทราบ ผ่านผู้แทนราษฎรไปแก้ไข รวมทั้งรัฐบาลไม่สนใจจะดำเนินการ อย่างจริงใจ ก็ไม่สามารถแก้ ปัญหาได้อย่างแน่นอน
นายนิยม กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองคือ ต้นตอปัญหาของประเทศทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ เลือกรับฟังแต่ว่า ตัวเองเก่ง ดี มีประชาชนรักและเชื่อตามนั้น ดังนั้นผลที่ตามมาคือ ความเชื่อผิดๆว่า ตัวเองดีที่สุดจึงส่งผลให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลกลายเป็นปัญหาประเทศ ที่ประชาชนไม่ยอมรับ
“การยกเลิกประกาศสถานการณ์ในสถานการฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงที่เกิดขึ้น หากยกเลิกโดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีการจัดม็อบชนม็อบ เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ หวังใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ หรือใช้อำนาจพิเศษเพื่อสลายการชุมนุม ถือเป็นความคิดที่เลวร้ายที่สุด ปัญหาที่เกิดขึ้นพลเอกประยุทธ์ ทราบดีว่าตัวเองคือต้นตอของปัญหา เพียงแค่พลเอกประยุทธ์ลาออกปัญหาจบทันที แต่หากยังไม่ลาออก ปัญหายิ่งลุกลามทั้งประเทศอย่างแน่นอน”นายนิยม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น