วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

ฟังความรอบด้าน เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ50 ใครได้ประโยชน์?



จากประเด็นการแก้ไขรธน.เป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้านการแก้ไข ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลมาโต้ซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งจะนำไปสู่ความวุ่นวายได้ ทางกองบรรณาธิการเว็บไซท์ InsideThaiGOV ขอประมวลความเห็นจากทุกฝ่ายในสังคม มาเพื่อให้ทุกท่านได้ตัดสินใจ สังคมไทยจะเดินหน้าไปทางไหน? คำตอบอยู่ที่คุณ...

พันธมิตรฯเปิดศึก นัดระดมพลต้านแก้รัฐธรรมนูญ
นายปานเทพ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะดำเนินคดีอาญาต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ/หรือถอดถอนและ/หรือยุบพรรค ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา คณะรัฐมนตรี และพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ โดยมอบหมายให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดำเนินการต่อไป รวมทั้งจะมีการเชิญแกนนำ ผู้ประสานงาน และตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศทุกกลุ่ม เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมรับมือและลุกขึ้นต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะจัดให้มีการประชุมในวันเสาร์ที่ 10 มี.ค. เวลา 10.00 น. และจะแจ้งสถานที่ให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

ประชาธิปัตย์เรียงหน้าจัดหนัก เตรียม 30 ขุนพลถล่มรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นเสียงส่วนน้อย คงไม่สามารถต้านทานความต้องการของรัฐบาลได้ แต่จะพยายามเต็มที่ โดยได้เตรียมผู้อภิปรายของพรรคที่ได้แสดงเจตจำนงไว้เป็นรายชื่อตัวจริง 30 คน สำรองอีก 20 คน พร้อมวางแนวทางการอภิปรายให้เป็นทิศทางเดียวกัน โดยครั้งนี้จะให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ได้มีโอกาสอภิปรายอย่างเต็มที่ เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ นายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ นายจุรินทร์ ลัก ษณวิศิษฎ์ ฯลฯ โดยใช้ห้องคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน ที่อยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารรัฐสภาในการเป็นวอร์รูม เพื่อหารือและวางแนวทางในการอภิปราย

เพื่อไทย ระบุ ส.ว. สรรหา เป็นพวกอำนาจเผด็จการ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่กลุ่ม ส.ว.ออกมาแถลงข่าวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 มีลักษณะของการเริ่มเดินเครื่องเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากกระบวนการรัฐประหาร ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนแล้วว่า การแก้รัฐธรรมนูญจะมีการแก้ในมาตรา 291 เพื่อให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อเข้ามายกร่างโดยที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการแก้ แต่ สสร.จะเป็นผู้ยกร่างซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถล้างบางหรือรวบ อำนาจองค์กรอิสระได้อย่างไร กลุ่ม ส.ว.ที่ออกมาพูดคล้ายพวกอำนาจเผด็จการ ซึ่งขณะนี้สอดคล้องกับที่มีการเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชนในภาคใต้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเดียวกันหรือไม่ที่จะมาขัดขว้างการ อภิปรายเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 ก.พ. เพราะกลัวว่าจะมีการแก้ไขหมวดสถาบัน ดังนั้นการออกมาแถลงข่าวของ ส.ว.จึงเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบไม่เคารพเสียงของประชาชนกลับออกมาทำให้ ประชาชนสับสนเกิดความวุ่นวายจนเป็นการปลุกระดมม็อบ ทั้งนี้ยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยจะไม่แตะต้องมาตรา 291/11 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้กลุ่ม ส.ว.ทบทวนบทบาทตนเองและใช้เวทีสภาแสดงความเห็นร่วมกันจะดีกว่า อย่าไปคิดแทนประชาชนจนสร้างความขัดแย้ง

“ก่อแก้ว” เผยพันธมิตรฯหวังล้มรัฐบาล
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีของพันธมิตรฯ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อหวังจะล้มรัฐบาลแน่นอน เพราะเป็นพวกฝักใฝ่เผด็จการแม้การแสดงท่าทีคัดค้านสามารถทำได้ แต่ขอให้เป็นไปแบบมีอารยะ มีเหตุผล คนเสื้อแดงไม่อยากเห็นการก่อความวุ่นวายนอกสภาเหมือน 3-4 ปีที่ผ่านมาอีกแล้ว อยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีเป้าหมายแอบแฝงในการแก้ไข รธน. เนื้อหาการแก้ไขก็เป็นไปตามที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) กำหนด ไม่ได้เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงกำหนด ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เสนอเนื้อหาให้ สสร.ไปพิจารณาได้ คนเสื้อแดงจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั้งกลุ่มที่ต้องการให้แก้ไข กลุ่มที่ไม่ต้องการให้แก้ไข และกลุ่มที่เห็นว่าแก้ไขหรือไม่แก้ไขก็ได้ โดยกระจายตามภูมิภาคต่างๆของประเทศ เพื่อจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จำนวน 2,118 คน ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.- 3 มี.ค. 2555 ต่อคำถามที่ว่า ประชาชนคิดว่าจะ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” อย่างไร? จึงจะไม่เกิดความขัดแย้ง ผลสำรวจแบ่งออกตามลำดับดังนี้
อันดับ 1 เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น /ทำประชาพิจารณ์หรือประชามติ เพื่อฟังเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายที่ระบุไว้ 43.27%
• อันดับ 2 ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ รัฐธรรมนูญมีความสำคัญและเป็นของคนไทย ทุกคน ถ้ามีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงก็ควรแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ไม่ใช่เพื่อทำลาย 27.93%
• อันดับ 3 การสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องรัฐธรรมนูญอย่างถูกต้อง /ชี้แจงเหตุผล ความสำคัญ หรือความจำเป็นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 17.01%
• อันดับ 4 ทุกคนต้องมีสติ มีวิจารณญาณ ยึดหลักความถูกต้อง เป็นธรรม /ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา 7.14%
• อันดับ 5 สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารอย่างสร้างสรรค์ ให้ความรู้ในเรื่องรัฐธรรมนูญในแง่มุมต่างๆที่หลากหลาย 4.65%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น