วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

แกะกล่องซอฟท์แวร์แท็บเล็ต - “โอฬาร” เผย “เราจะเรียนด้วยความสนุก”

ดร.โอฬาร ไชยประวัติ แสดงซอฟท์แวร์เครื่องต้นแบบวันแท็บเล็ตเพอร์ชายด์
ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษาและกรรมการบริหารนโยบาย “วันแท็บเล็ตเพอร์ชายด์” เปิดเผยรายละเอียดซอฟท์แวร์ที่บรรจุลงเครื่องแท็บเล็ตพีซีของไทยครั้งแรก

ดร.โอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทยและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการบริหารนโยบาย “วันแท็บเล็ตเพอร์ชายด์” (One Tablet Per Child) ให้สัมภาษณ์พิเศษเว็บไซต์ InsideThaiGOV ถึงความคืบหน้าของโครงการในส่วนของซอฟท์แวร์ ว่า “เรื่องของซอฟท์แวร์จะมีหนังสืออิเลคทรอนิกส์ (e-Book) ที่ใช้ในการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาปีที่1 ภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี เลิร์นนิ่งออฟเจ็ค (Learning Object) หรือ แฟ้มดิจิตอลเพื่อใช้นำเสนอให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของสื่อในรูปแบบของสื่อผสมที่มีการออกแบบอย่างเป็นระบบ โดยได้นำการ์ตูน และภาพเคลื่อนไหว ที่พัฒนาเสร็จแล้วกว่า360 เรื่อง ประกอบไปด้วยวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ฯลฯ”

“สำหรับเนื้อหาที่ถูกพัฒนาเสร็จแล้วทั้งหมดจะเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ซึ่งบทเรียนที่ใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 และ มัธยมศึกษาปีที่ 1-3 อาทิ การสอนนับเลขในวิชาคณิตศาสตร์ หรือ การเรียนรู้หลักไวยากรณ์ในวิชาภาษาไทย ทั้งหมดเป็นบทเรียนที่ไม่เน้นการท่องจำแต่ใช้ความเข้าใจเป็นหลักนักเรียนก็จะเรียนด้วยความสนุกสนาน โดยใช้หลักการแบบ “เอ็ดดูเทนเมนท์” (Edutainment: Education + Entertainment) ส่วนเสียงเนื้อหาภาษาอังกฤษจะมีการเลียนแบบเสียงที่คล้ายภาษาแม่ (Native Speaker) มากที่สุด ทั้งนี้ในอนาคตจะมีการทำการพัฒนาระบบการบริหารการจัดการเรียนรู้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางด้านการศึกษาทั้งครูผู้สอน และตัวผู้เรียนเอง โดยตัวระบบจะเป็นผู้ประมวลผลและวัดประสิทธิภาพทางการศึกษาเพื่อนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ที่มากขึ้น”

ดร.โอฬาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ส่วนของหน่วยความจำหลักจะมีความจุไม่มากนัก จึงใช้หน่วยความจำแบบไมโครเอสดีการ์ด (Micro SD Card)บรรจุเนื้อหาสาระทั้งหมด สามารถแบ่งจำนวนเครื่องแยกตามหน่วยงานโดยประมาณในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) 566,000 เครื่อง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ 183,000 เครื่อง โรงเรียนสาธิต 3,700เครื่อง และ กระทรวงมหาดไทยที่รวมโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร องค์การบริหารส่วนและโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งสิ้น 847,500 เครื่อง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น